..ท้าวเวสสุวรรณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก ..ภาพถ่าย วันที่ 18 สิงหาคม 2567

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ศีลห้า บทลักขโมย โดย พระอรหันต์จี้กง

                       บทลักขโมย

    การลักขโมยอย่างลับ ๆ จี้ปล้น โจรกรรม หยิบ
ฉวยซึ่ง ๆ หน้า หลอกลวง อำพรางใช้เล่ห์เพทุบาย (เช่น
ลวงสวาท ล่อลวงคนไปขาย) ใช้อำนาจขู่เข็ญบังคับถือ
สิทธิ์เอาประโยชน์โดยมิชอบ (เช่น เก็บค่าคุ้มครองฯ)
ยักยอก เบียดบังบิดเบือน (เช่น ยึดเอาของฝากผ่านมือฯ)
เหล่านี้ล้วนผิดศีลลักขโมย

    มีโรคภัยแล้ว มากราบไหว้ขอให้พระคุ้มครอง
รักษาแต่ไม่ได้เอาธูปเทียนของตัวเองมา ถือวิสาสะหยิบ
เอาจากโต๊ะบูชา อย่างนี้แทนที่จะสร้างบุญชดใช้บาป
เวรกลับกลายเป็นลักขโมยของพระเสียอีก

    ธูป น้ำมัน เครื่องบูชา มีคนนำมาถวายหรือใช้
ไม่หมดทิ้งไว้ถือเป็นสมบัติของตำหนักพระ อย่าจาบจ้วง
ถือวิสานะเอาไปใช้ จะจุดธูปกำใหญ่ภาวนาเฉพาะตัว
เพื่อความสบายใจ ให้นำเครื่องบูชามาเอง

    โทรศัพท์ของตำหนักพระส่วนรวม มิใช่สิทธิของ
เตี่ยนฉวนซือ ถันจู่ หรือใครผู้ดูแล จะอนุญาตให้ใช้ฟรีได้
ใช้โทรศัพท์ทีไรไม่ว่าโทรใกล้ไกล ถ้าไม่ใช่เครื่องโทรศัพท ์
หยอดเหรียญเอง จะต้องจ่ายค่าโทรตามอัตราค่าโทร
ทุกครั้ง

    ผู้ทำหน้าที่ในโรงครัวต้องระวัง ปรุงอาหารชิม
ให้รู้รสคำเดียวก็พอ ปรุงเสร็จแล้วยังไม่ถึงเวลา อย่า
ตักไปกินเองเสียก่อน ข้าวของทุกอย่างญาติธรรมเขา
อนุโมทนามา แม้เจ้าจะร่วมบริจาคด้วยก็ต้องรักษา
ระเบียบนี้ ข้าวของซื้อเข้ามามอบให้เป็นสมบัติของ
ตำหนักพระแล้ว ไม่ให้กลับหอบหิ้วออกไป จะเป็นการ
ลักขโมยของพระ

    แต่ถ้าเสร็จงานประชุมแล้ว กับข้าวเหลือไว้จะ
บูดเน่าเสียเปล่า แบ่งปันกันไปไม่เป็นไร วันหน้าซื้อของ
ใหม่มาถวายชดเชยก็ได้ ผลไม้ซื้อมาบูชาพระ ไม่ให้เอา
มากินก่อน สมบัติของพระไม่ให้ถืออภิสิทธิ์กินเองหรือ
ให้ใครกินก่อนที่จะถวายพระเสร็จเรียบร้อย ของส่วน
ตัวซื้อเข้ามาเพื่อกินเองไม่เป็นไร

    ญาติธรรมบริจาคเงินบ่งชัดว่า จะช่วยค่าใช้จ่าย
ประจำเดือน ช่วยงานบุกเบิกแพร่ธรรม พิมพ์หนังสือ
ธรรมะหรือใช้จ่ายอะไรในตำหนักพระ จะต้องจัดให้
เป็นไปตามเจตน์จำนงของเขาอย่างถูกต้องชัดเจน

    เครื่องใช้ทำความสะอาดในตำหนักพระ ต้องรัก
ษาความสะอาดเป็นของจำเพาะ ต้องแยกออกจาก
เครื่องใช้ของครัว ของห้องน้ำห้องส้วมไม่ให้ปะปนกัน

    ธูปหรือดอกไม้บูชาพระ อย่าเอามาดมก่อนบูชา
เป็นการจาบจ้วง เป็นการล่วงเกินไม่เคารพ

    ข้าราชการ พนักงาน หยิบฉวยซองจดหมาย
กระดาษเขียนจดหมายของที่ทำงาน ไปใช้ส่วนตัวถือ
ว่าลักขโมย

    ผู้บำเพ็ญจงระวังให้มาก ถ้าเป็นของส่วนราชการ
เท่ากับขโมยทรัพย์สินของประชาชนผู้เสียภาษี สอนผู้
อื่นให้หลีกเลี่ยงหรือหนีภาษี หรือใช้วิธีโทรศัพท์สาธา-
รณะโดยไม่กินเงิน เป็นการขโมยทรัพย์สินของหลวง

    กฎระเบียบของการไปรษณีย์ มิให้สอดแทรกเอก
สารหรือสิ่งอื่นควบกันไป ถ้าแอบละเมิดเอาประโยชน์
ก็ถือว่าผิดศีลข้อลักขโมย สิ่งพิมพ์ที่คิดค่าส่งไปรษณีย์
ในอัตราต่ำ อย่าแอบสอดจดหมายส่งไปด้วย ผู้แนะนำ
ให้ทุจริต และผู้ทำตามมีบาปฐานลักขโทยของหลวง
ร่วมกัน

    โดยสารรถเมล์ เรือเมล์ เพิกเฉยเมื่อเขาลืมเก็บ
ค่าโดยสาร หรือหลีกเลี่ยงไม่จ่ายค่าบัตรผ่านประตูก็
เข้าข่ายลักขโมย หากลักขโมยเอาคนยากจนเข้า เขา
ทุกข์ร้อนจนเสียชีวิต เสียผู้เสียคน โทษบาปนี้เท่ากับลัก
ขโมยและฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผิดศีลทั้งสองข้อ

    เวลาซื้อของตกลงกับผู้ขายให้เขาลดราคาลงแล้ว
ไม่ต้องให้เขียนใบเสร็จรับเงิน การหลีกเลี่ยงภาษีอย่างนี้
ก็เท่ากับขโมยของหลวง

    ในศีลห้า เรื่องลักขโมยเป็นเรื่องละเอียดมากและ
บำเพ็ญได้ยากที่สุด บางอย่างเผลอไปใจหยาบก็ผิดทันที
ถ้าอาจารย์จะว่ากันให้ละเอียด เจ้าก็จะรำคาญว่าได้นั่น
ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ถูก ไม่เอาแล้ว หนีไปอยู่อเมริกาเสียให้รู้
แล้วรู้รอดไป จะได้ไม่ต้องฟัง ถ้าเจ้าไม่ฟังไม่ทำตามเจ้า
ก็จะรักษาบุญวาสนาไว้ไม่อยู่

    ทุกคนเมื่อมาถึงตำหนักพระ ก็หวังว่าจะได้เพิ่ม
พูนบุญกุศลกัน แต่ถ้าไม่ระวังกลับทำให้บุญกุศลรั่วไหล
ไปก็น่าเสียดาย

    “ต้นคิดจิตกระจายเหมือนควายขน แต่มรรคผล
เทียบได้ควายสองเขา”

    จิตที่โลภโกรธหลงฟุ้งซ่าน กระจายเหมือนวัว
ควายขนเต็มตัว แต่ผู้จะบรรลุอริยมรรคได้มีน้อยนัก
ดังเขาควายเมื่อเทียบกับจำนวนเส้นขนบนตัวควาย

    ผู้เพียรวิถีโพธิสัตว์อย่างแท้จริง จะไม่กลัวความ
ยุ่งยาก แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพบ้านเมืองวุ่นวายจอ
แจก็สามารถจะแปรเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องทำให้
จิตใจเศร้าหมองวุ่นวายให้เป็นพุทธะอันเบิกบานได้

    ผู้บำเพ็ญเพื่อเอาตัวรอดเฉพาะตนเท่านั้น จึง
จะหลบไปอยู่ตามป่าเขาอันวิเวก เพราะกลัวจะถูก
สภาพแวดล้อมยั่วย้อมเอา ผู้บำเพ็ญวิถียานระดับสูง
จะต้องใช้ปัญญาแยกแยะควรทำอย่างไร ไม่ควรทำ
อย่างไร การล่วงละเมิดทรัพย์สิ่งของบางกรณีไม่ถือ
ว่าลักขโมย เช่น สำคัญผิดว่าเป็นของตน เช่น ร่มกัน
ฝนคล้าย ๆ กัน วางรวมกันไว้เร่งรีบจะออกไปคว้าได้
ของคนอื่นโดยไม่พันพิจารณาว่าเก่าใหม่กว่ากัน ฟังผิด
เข้าใจผิดว่าเขามอบให้ โดยมิได้ใฝ่ใจอยากได้มาก่อน
เก็บเอามาเพราะเข้าใจผิดว่าเขาทิ้งแล้ว เมื่อเห็นเขา
กองรวมอยู่กับเศษขยะ

     ใช้โทรศัพท์บ้านใครที่เขาอนุญาตให้ใช้ได้ แล้ว
หยิบดินสอกระดาษบนโต๊ะมาจดข้อความ เมื่อกลับออก
มาปรากฏว่าหยิบดินสอของเขาติดมือมาด้วย อย่างนี้
ไม่ถือว่าลักขโมย แต่ต้องนำกลับไปคืนหรือบอกกล่าว
เจ้าของซึ่งแล้วแต่ความสนิทชิดชอบกันแค่ไหน

    ไปบ้านเพื่อนที่รักใคร่คุ้นเคยกัน จึงถือวิสาสะเปิด
ตู้เย็นเข้าครัวหาอะไรกินด้วยความเคยชิน แม้มิใช่
เจตนาลักขโมย แต่ก็เข้าข่ายมักง่ายไม่สำรวม ล้มแชร์
เบี้ยวแชร์ก็เป็นลักขโมย ชาติหน้าจะต้องเกิดเป็นสุกร
สุนัข หมูตัวหนึ่งค่าตัวกี่พัน เป็นหนี้เขากี่พัน จะต้องเกิด
ชดใช้กันจนกว่าจะครบจำนวนเงินที่เป็นหนี้เขา

    การลักขโมยมีโทษบาปหนักเบาต่างกัน ลักขโมย
ของตำหนักพระบาปหนัก เพราะเป็นสมบัติร่วมของ
ญาติธรรมอันเป็นคุณต่อผู้บำเพ็ญ มีคำกล่าวว่า

    “เพิ่มพูนบุญวาสนาได้ในประตูไตรรัตน์ วาสนา
อันไม่จำกัดเกิดจากหนึ่งเมล็ดพันธุ์บุญ”

    การสร้างบุญกับอาณาจักรธรรม วาสนาบารมีจึง
แผ่ไพศาลไปทั่วธรรมธาตุ เป็นคุณแก่ผู้บำเพ็ญทั้งสิบทิศ
เช่นเดียวกันในทางตรงกันข้าม การทำบาปในอาณา
จักรธรรมก็เกิดขึ้นได้ง่าย จึงให้ระวังแม้หนึ่งเล่มเข็ม
หนึ่งเส้นด้าย ก็มิให้จาบจ้วงฟุ่มเฟือยเสียหาย

     ถ้ามีเหตุต้องเอาไปใช้ หลังจากนั้นก็ให้บริจาค
กลับคืนมา ให้กู้เงิน รับจำนอง จำนำ ค้าเงินด้วยวิธีใด
ก็ตามที่ขูดรีดคิดดอกเบี้ยราคาสูง ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
ขัดสนทำให้เขาลำบากยิ่งขึ้นก็ถือว่า ผิดศีลข้อนี้

     การบริจาคทานใดๆ อย่ายึดมั่นว่า “ฉันให้” เงิน
จำนวนเล็กน้อยอาจจะไม่ยึดมั่น เป็นแสนเป็นล้านนั้น
ไม่แน่ จรวดเมื่อยิงออกไปในอวกาศจะต้องให้หลุดพ้น
จากแรงกรรมจึงให้วางใจลงไม่ยึดมั่นต่อไป ความโลภ
โกรธ หลง เป็นกระแสเกิดตายเรื่อยไปผู้ปฏิบัติบำเพ็ญ
จึงต้องทวนกระแสเกิดตายให้ได้ศึกษาธรรมก็คือ เรียนรู้
วิธีการทวนกระแสนี้

    ผิดศีลข้อ ฆ่าสัตว์ฯ ลักขโมย พูดปดมักมาก
ในกามทั้งสี่ข้อนี้ จะต้องไปเกิดในวิถีบาป คือ เปรต
เดรัจฉาน ผีนรก จะต้องชดใช้กรรมนั้นจนกว่าจะ
หมดสิ้น แล้วจึงได้เกิดเป็นคนต่อไป หากได้เกิดกาย
เป็นคนจะยากจนตกต่ำ เพราะชาติก่อนลักขโมยเขา
มามาก

     หากมีเงินทองมากมายแต่มิได้เสพสุข เพราะชาติ
ก่อนทำบุญให้ทานแล้วนึกเสียดายในภายหลัง ชาติ
นี้จึงไม่ได้จับจ่ายใช้สอยอย่างสบายใจ ข้าวของเงิน
ทองมักเสียหาย ค้าขาย ขาดทุน ใครเคยผิดศีลข้อ
ลักขโมย เมี่อเงินทองข้าวของใครเสียหาย มักจะตก
เป็นผู้ต้องสงสัย ใครเคยผิดศีลข้อลักขโมยมากกายใจ
มักจะไม่สงบสุข ลูกจะผลาญสมบัติ หรือต้องจ่ายเงินเป็น
ค่าหมอค่ายารักษาตัวเสมอเป็นคนกระวนกระวาย นั่ง
นอนไม่สบาย

     ผู้รักษาศีลข้อลักขโมย จะเป็นผู้รักษาทรัพย์สิน
เงินทองไว้ได้ ผู้คนเคารพยกย่องไว้วางใจรักษาศีลได้
บริสุทธิ์จะเป็นผู้มีเกียรติคุณ เราผู้บำเพ็ญจะต้องรู้จัก
เชิดชูผู้อื่น มองผู้อื่นด้วยสายตาเป็นธรรม ไม่นินทาว่า
ร้ายแคะได้ความผิดเขา เขาทำไม่ดีเป็นกรรมของเขา
เอง เจ้าเอาเขามาวิจารณ์ปากของเจ้าก็ไม่บริสุทธิ์เสีย
แล้ว อีกทั้งยังเกี่ยวกรรมเขาไปด้วย

    เตี่ยนฉวนซือจะไม่ดีอย่างไรก็ตาม แต่เขาตัดเรื่อง
กามได้ จิตใจส่วนนี้ก็สมควรยกย่องแล้ว เหมือนสมณะ
นักบวชที่ปลงผมห่มจีวรได้ก็สมควรยกย่องแล้ว เขาจะ
ได้บำเพ็ญหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องของเขาตัวเราเองให้
รักษาจิตใจชื่นชมเขาได้ทุกขณะจะไม่ผิด ถ้าใจเป็นกลาง
พิจารณากล่าวอ้างถึง เพื่อการเสริมสร้างอย่างนั้นไม่ถือ
เป็นนินทาว่าร้าย

    ผู้ไม่ผิดศีลลักขโมย ไม่ว่าอยู่กับคนกลุ่มใดสถาน
ใดจิตใจก็เบิกบานไม่ลับล่อส่อพิรุธ ไม่มีใครกล้ารังแก
ผู้ไม่ผิดศีลลักขโมย ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเรื่องนี้ไม่มี
สัญญาความจำเรื่องนี้ ไม่มีแรงกรรมนำหนุนผลักดัน
เมื่อตายจึงปลอดโปร่งจิตวิญญาณจะไปสู่สุคติได้ เมื่อ
เกิดความคิดมิชอบให้ถามจิตตนเองทันทีว่าควรหรือไม่
ระวังอย่าให้แปดเปื้อน

    มิจฉาทิฐิเหมือนหินผาสกัดยาก โทสะจริต
เหมือนเพลิงไฟ ยิ่งร้อนแรงกันเท่าไร อัคคีภัยสงคราม
ก็เกิดตามมาไม่สิ้น รักษาศีลห้า เทพยดาห้าพระองค์จะ
ปกป้องดูแลแต่ละศีลแต่ละพระองค์ รักษาได้บริสุทธิ์
จะหลุดพ้นการเวียนว่ายได้ง่าย การบำเพ็ญจะก้าว
ไปได้ราบรื่นรวดเร็ว อวิชชาเป็นเพลิงไฟเผาไหม้จิต
วิญญาณ เผาผลาญบุญกุศล ปลูกบุญทานเหมือนปลูก
ต้นไม้ทีละต้น อวิชชาเกิดขึ้นเมื่อใดก็เผาไหม้หมดป่า
ในพริบตาเดียว


คัดลอกจาก  บำเพ็ญขัดเกลาพุทธจิต 

 ** แม่น้ำ ทะเล  และมหาสมุทร  ไม่มีที่สิ้นสุดฉันใด
   กิเลส ตัณหาของมนุษย์ ก็ย่อมไม่มีที่สิ้นสุดฉันนั้น **







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น