..ท้าวเวสสุวรรณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก ..ภาพถ่าย วันที่ 18 สิงหาคม 2567

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ศีลห้า บทฆ่าสัตว์ตัดชีวิต โดย พระอรหันต์จี้กง

     “ศีล”เป็นรากฐานเบื้องต้นที่จะพาคนให้พ้นเวียน
ว่าย มิรู้จักถือศีลเจ้าจะทำผิดกันมากมาย ไม่ถือศีล
เหมือนมีรายรับไม่พอกับรายจ่าย จึงต้องใช้ศีลมาเป็น
กรอบบังคับให้ทำความผิดกันน้อยลง ไม่ว่าใครบำเพ็ญ
ในสายใด ล้วนแต่จะต้องรอบคอบระวังรักษาศีล ให้กาย
วาจา ใจบริสุทธิ์


      เราบำเพ็ญปฏิปทาพระโพธิสัตว์กันก็จะต้องระวัง
แม้สิ่งละเอียดเล็กน้อย มิฉะนั้นทุกขณะที่เกิดความคิด
จิตสำนึกของเจ้าก็จะไม่บริสุทธิ์ ธรรมปฏิบัติมีหลาย
แนวทาง ที่เหมือนกันคือการถือศีล ไม่ว่าจะเป็นลัทธิใด
“ศีล” จะเป็นธรรมปฏิบัติร่วมกันอย่างแน่นอน ฉะนั้น

วันนี้อาจารย์จึงจะพูดเรื่อง “ศีล” ให้พวกเจ้าเข้าใจให้
ไปรักษากันเอาไว้ ไม่ใช่ให้รักษาเพียงปณิธานสิบรหัส
คาถาแล้วก็จะพ้นเวียนว่ายตายเกิด



     ถ้าเอาแต่ท่องทุกวัน แต่ไม่ตัดตัว “ต้นคิด” ไม่ตัด
รากเหง้าของความผิดบาปทั้งหลายก็จะเข้าข่าย
 

    “ดายหญ้าไม่ขุดรากเหง้า ลมฝนพัดเจ้าก็แตก
ยอดดอกใบ”


     รากเหง้าของความผิดบาป จะต้องตัดขาดขุดถอน
ให้สิ้นโดยเด็ดขาด อริยวิสัยในตัวของเจ้า (จิตพุทธะ)
จึงจะเจริญวัยปัญญาของเจ้าจึงจะเบิกบานแจ่มใส ศีล
สมาธิ ปัญญา ศีลนำมาก่อน การได้พบวิถีธรรมหนทาง
ตรงในยุคสุดท้ายนี้ เนื่องจากรากฐานของเหล่าเวไนย
ค่อนข้างหยาบ จึงไม่อาจเห็นจิตเดิมแท้ของตนได้ทันที
ไม่อาจสำรวมรักษาตนให้บริสุทธิ์ได้ จำต้องอาศัยศีล
เป็นครู 


     เมื่อไม่อาจใช้จิตเดิมแท้เป็นตัวรู้ได้ จึงต้องใช้
เป็นครูนำทาง ถือศีลช่วยให้ครอบครัวเป็นสุขสามีภรร
ยาต่างถือศีล ความผิดเรื่องชู้สาว เหล้ายา อบายมุข
ย่อมไม่เกิดขึ้น ทุกคนในสังคมถือศีล บ้านเมืองไม่ต้องมี
สถานีตำรวจ โรงศาล ไม่ต้องใช้กฎหมายควบคุม อยาก
ให้สังคมสงบสุข ทุกคนจะต้องถือศีลอาศัยศีลควบคุม
ตน
 

     ถือศีลช่วยให้เจ้าหลุดพ้น ศีลไม่ใช่เครื่องผูกมัด
จำกัดเจ้า แต่ศีลเหมือนรางรถไฟ หากเจ้าแล่นออก
นอกรางก็จะอันตราย ศีลเป็นขอบเขต เมื่อเจ้าออกนอก
ขอบเขต สัญญาณไฟแดงจะเตือนภัย ทำผิดไปจาก
ความเป็นคนก็คือ ละเมิดศีล

 
     เสรีภาพ คือ ความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่เป็นภัย

ต่ออิสรภาพของผู้อื่น จึงต้องอาศัยศีลมาควบคุม
 

     ถ้าทุกคนมีเมตตากรุณาประจำใจ ศีลก็ไม่มีผล
อะไรสำหรับเจ้า
 

     ถือศีล คือ กำหราบตนเอง เสริมสร้างตนเองให้เกิด
เมตตากรุณา กำหราบตัวเองไม่ให้เพ้อเจ้อ ไม่ลักขโมย
ไม่โลภอยาก ไม่เมาสุราขาดสติ ไม่มักมากในกาม
 

     ศีลช่วยให้เจ้าเดินเข้าสู่สัมมาสัมโพธิมรรค อย่า
เห็นศีลเป็นเครื่องผูกมัดพันธนาการ และอย่าเอาศีลมา
เป็นเครื่องวัดระดับการบำเพ็ญ หรือพิจารณาหาความ
ผิดของคนอื่น เขาบังเกิดกุศลจิตจะรักษาศีล ให้เขา
ค่อยๆ ปรับสภาพไป


     ในอดีตชาติที่ผ่านมา เราต่างปลูกเมล็ดพันธุ์อัน
เป็นเหตุและผลมากมายในสัญญาความจำ พอกพูน
ไว้นานเหลือเกินแล้ว จึงยากที่จะกำจัดไป ทุกคนต่าง
มีอารมณ์มีอนุสัยที่นอนเนื่องแฝงอยู่นี่คือ จุดบกพร่อง
จึงต้องอาศัยศีลค่อย ๆ ปรับสภาพ ค่อย ๆ กำหราบตัว
เจ้าเอง
 

     อย่าได้กลัวการถือศีล สำหรับผู้บำเพ็ญ ศีลเป็น
บันไดที่จะต้องก้าวขึ้นไป เพื่อมุ่งสู่วิถีโพธิสัตว์ เจ้าสร้าง
บุญกุศลกันโดยไม่เข้าใจ “ศีล” เท่ากับเสี้อผ้าเปื้อนที่

ยังไม่ได้ซัก เอาออกมาใส่ทีไรรอยเปื้อนก็ยังคงอยู่ อนุสัย
ในแต่ละชาติของชีวิตที่ได้สั่งสมไว้ มิได้ขจัดไปมันนอน
เนื่องอยู่ในสันดาน เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ฝังอยู่ในผืนนา
ได้รับแสงแดดก็จะแตกใบงอกงามขึ้นมาใหม่จึงกล่าวว่า
    

     “ดายหญ้าไม่ขุดรากเหง้า ลมฝนพัดเจ้าก็แตก
ยอดดอกใบ”

     การจะกำจัดวัชพืชในจิตใจ ต้องอาศัยถือศีลเป็น

หลักจึงจะถึงรากถึงโคน


             บทฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

     มีคนพูดว่า “ฉันไม่ได้ฆ่าคนอื่น ฉันฆ่าตัวเอง ฉัน
มีสิทธิ์” ที่ฆ่าตัวตาย ในสัญญาความจำที่สืบเนื่องมาจาก
อดีตชาติมันฝังเมล็ดพันธุ์ของการฆ่าตัวตายไว้แล้ว เกิด
ชาติต่อมาจึงมีอารมณ์อยากฆ่าตัวตาย ฉะนั้น ให้ระวัง
อย่าให้เกิดความคิดนี้ ใครที่ฆ่าตัวตายได้สำเร็จ อย่าง
น้อยจะต้องฆ่าตัวตายเรื่อยไปถึงเจ็ดครั้ง


     คำว่า ฆ่าตัวตาย จะต้องหมายความว่า ฆ่าตัว
กิเลสตัณหาของตัวให้เหลือไว้แต่จิตพุทธะ เป็นศิษย์
พระพุทธจี้กง เป็นผู้บำเพ็ญวิถีอนุตตรธรรมสูงส่ง
เหลือเกิน กว่าจะได้เกิดกายเป็นคนนั้นยากนัก พระ
คุณของฟ้าดิน พระคุณของบ้านเมือง พระคุณของพ่อ
แม่ ครูบาอาจารย์ เบญจคุณากร ยังมิได้ตอบแทนเจ้า
มีสิทธิ์อะไรจะฆ่าตัวตาย
 

     อย่าช่วยเขาฆ่า เมื่อเห็นใครฆ่าสัตว์แล้วเจ้าพูดว่า
“ฆ่าเสียให้ตายก็ดี” “เนื้อนี้อร่อยดี” ใครเขาปรึกษาจะ
ทำแท้งถ้าเจ้าบอกว่า “ดี ดีเหมือนกัน อย่าเอาไว้เลย”
เห็นอาหารเนื้อสัตว์มากมายในงานเลี้ยง ถ้าเจ้าบอกว่า
“ดีจังเลย น่ากินจังเลย” อย่างนี้เท่ากับมีส่วนสนับสนุน
ช่วยฆ่า
 

     เจ้าถือศีลกินเจ ลูกจะแต่งงานจะจัดเลี้ยงอาหาร
เนื้อสัตว์ถ้าเจ้าบอกว่า “ตามใจ” อย่างนี้เท่ากับมีส่วน
ช่วยฆ่า เจ้าจะต้องบอกว่า “พ่อแม่ถือศีลกินเจ ย่อมไม่
สนับสนุนให้ลูกเบียดเบียนชีวิตเขา” ถ้าลูกยังขืนดึงดัน

จะเลี้ยงอาหารเนื้อสัตว์ พ่อแม่จนใจก็ได้แต่บอกว่า
“ถ้าอย่างนั้น ลูกก็รับผิดขอบเองก็แล้วกัน”


     ขายขาจีน ในพิกัดยาใส่ส่วนของสัตว์หรือแมลง
อยู่ด้วย ผู้ขายจะต้องสำนึกว่า “อย่าได้เป็นบาปเป็นเวร
แก่กันเลย มันจำเพาะเป็นยารักษาโรค” แต่อย่าแนะนำ
ให้เขาเอายาไปตุ๋น เป็ด ไก่ ฯลฯ บำรุงกำลังเป็นอันขาด
เพราะจะเท่ากับมีส่วนช่วยฆ่าด้วย


    ขายยานอนหลับ ยาประเภทกล่อมประสาทปลุก
ประสาท ฯลฯ เหล่านี้มีส่วนเกี่ยวกรรมกับการฆ่าด้วย
เขาอาจกินเกินขนาด กินผิดพลาด ทำให้ประสาทเสีย
พิการถึงตายให้ระวังให้มาก


     ผู้ตั้งปณิธานกินเจแล้ว กาย วาจา ใจ จะต้อง
สะอาด อย่าพูดพล่อย พูดให้เขาน้อยใจอยากตาย หรือ
หาทางตายไปจริง ๆ ขายของมีคมที่เป็นอาวุธทำลาย
ชีวิตได้ให้ระวัง ผู้ขายสิ่งเหล่านี้มีเหตุแห่งกรรมหนุนนำ
มาแต่อดีตชาติ ผู้บำเพ็ญมิให้ใช้เครื่องหนังสัตว์แท้ เช่น

เข็มขัด รองเท้า กระเป๋า ฯ

     ผู้สนับสนุน หรือสร้างค่านิยมเครื่องหนังแท้เท่า
กับมีส่วนช่วยฆ่า ให้ใครหยิบยืมเงินทองต้องระวัง ต้อง
รู้ว่าเขาจะเอาไปทำอะไร ไปก่อกรรมไปทำแท้งฯ เราก็
เท่ากับมีส่วยช่วยฆ่า จะร่วมบุญทานต้องพิจารณาหาก
เอาเงินไปช่วยร่วมงานบุญที่เขาล้มวัว ล้มควาย ฆ่าหมู
เป็ด ไก่ ฯลฯ เราก็ไม่พ้นมีส่วนช่วยฆ่า
 

     ร่วมบุญทานบริสุทธิ์ฉุดช่วยคนให้พ้นทุกข์เหมือน
ปลูกเมล็ดพันธุ์เมล็ดเดียวเก็บเกี่ยวได้หมื่นเมล็ด
 

     ไม่ขายเบ็ดตกปลา เบ็ดอันนี้เขาซื้อไปตกปลาได้ 
 ปลากี่ตัว ปลาเหล่านั้นก็จะมาคิดบัญชีกับเจ้า แม่บ้าน
กินเจแต่ยังต้องทำอาหารเนื้อสัตว์ให้พ่อบ้านและลูก ๆ
ถ้าจำใจต้องซื้อปลา ระวังอย่าซื้อปลาท้องไข่ จะต้อง
เกี่ยวกรรมกับเขาหลายชีวิต
 

     ผู้บำเพ็ญหญิง จึงต้องหมั่นสำนึกขอขมากรรม
เสมอ ๆ ทำไมคนเป็นโรคมะเร็งกันมากเหลือเกิน ทั้ง ๆ

ที่การแพทย์เก่งกาจก้าวหน้าถึงเพียงนี้ ไม่น่าจะมีโรค
แปลก ๆ ที่รักษาไม่หายมากมายอย่างนี้จึงจะถูก น่าจะ
สรุปผลได้อย่างเดียวว่า มันเกิดขึ้นตามแรงฆาตกรรม


ธัญญาหารจะต้องอุดมสมบูรณ์เป็นแน่ โรคภัยไข้
เจ็บก็จะลดน้อยลง ในสมัยพระอริยกษัตริย์เหยาซุ่น
สามพันกว่าปีก่อน ไม่มียาฆ่าแมลง พืชพันธุ์ธัญญาหาร
อุดมสมบูรณ์จะเห็นได้ว่า ยิ่งฆ่า ยิ่งมาให้ฆ่า ไม่หมด

     เสือเป็นสัตว์ป่ากินคน มีคนไปกินเสือไหม ไม่มี
แต่เสือก็น้อยลงทุกวัน ส่วนเป็ดไก่คนกินกันมาก จึง
เกิดมากขึ้น แมลงก็เช่นเดียวกันกำจัดเท่าไรก็ไม่หมด
บริเวณที่อยู่อาศัยให้รักษาความสะอาด มด แมลงวัน
ก็จะน้อยลง เขามีกรรมร่วมกับเจ้า เขาต้องการอยู่รอด
จึงมารบกวนเจ้า เจ้าฆ่าเขา เขาฆ่าเจ้า เหมือนคนกิน
แพะ แพะตายไปเกิดเป็นคน คนตายไปเกิดเป็นแพะ
เวียนกันไม่จบสิ้น
 
     มีคำถามว่า หลังจากตั้งปณิธานกินเจตลอดชีวิต
แล้ว สัตว์เลี้ยงที่บ้านจะจัดการอย่างไร เจ้าก็คิดเสียว่า
เขาเกี่ยวกรรมกับเจ้ามา จงเลี้ยงดูเขาต่อไปจนกว่าจะ
ตายแล้วฝังเขาเสียให้เขาไปเกิดใหม่
 
     ทำบุญ หรือจัดเลี้ยงในวันเกิด อย่าได้เบียดเบียน
เดือดร้อนชีวิตสัตว์ การเกิดของเจ้ามิได้แสดงถึงความ
ยิ่งใหญ่อันใด กลับทำร้ายสัตว์มากมายให้ตายลง บน
บานศาลกล่าวเสร็จแล้วถวายหัวหมู ยังไม่ทันจะสร้าง
บุญกุศลกลับหาเรื่องให้ตัวเองซ้ำอีก ฟาดเคราะห์ไป
เปราะหนึ่ง ยังไม่ทันไรเกี่ยวกรรมเข้าไปอีกรายหนึ่ง
 
     ต่อไป อย่าได้ไปบนบานศาลกล่าวอย่างนี้อีก
งานศพพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ให้เลี้ยงอาหารเจเป็นดีที่
สุด งดการฆ่าสัตว์เป็นดีที่สุด จะได้ไม่เป็นบาปตามติด
ผู้ตายไป หากยังกินเจกันไม่พร้อมทั้งครอบครัวภายใน
สี่สิบเก้าวัน ให้กินเจทั้งหมดพร้อมกัน
 
     สามีภรรยาก็ควรแยกห้องกันสี่สิบเก้าวัน จะช่วย
 ลดหย่อนบาปเวรของผู้ตายได้ การไม่ฆ่า คือ เมตตา
 กรุณา จิตสำนึกนี้ทุกคนต่างมี ไม่ฆ่าเป็น เรื่องทำได้
ไม่ยาก แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ซิลำบากหน่อย เคยมีศิษย์
ต่อรองกับอาจารย์ว่า “พระอาจารย์ขอรับ ศิษย์ไปผ่า
ตัดมาเสียกำลังไปมาก ขออนุญาตกลับไปกินเนื้อสัตว์
ให้แข็งแรงเสียก่อนแล้วจะกลับมากินเจใหม่ คงไม่เป็น
ไรนะขอรับ”


     หากเจ้าคิดจะต่อรองก็แล้วแต่เจ้า อาจารย์บัง
คับเจ้าไม่ได้ หนี้ของใครใครก็ชดใช้กันเอง ไม่เกี่ยว
กับอาจารย์ จึงไม่ต้องต่อรองกับอาจารย์ ประสาทจิตใจ
ไม่ปกติ การฆ่าของเขามีโทษบาปเบากว่าคนทั่วไปด้วย
กุศลเจตนาจะช่วยพระพุทธอริยเจ้า การฆ่าของเขามี
โทษบาปเบากว่าคนทั่วไปเพื่อช่วยคนหมู่มาก เช่น สู้รบ
เพื่อชาติแม้โทษบาปจะเบากว่า แต่ไม่พ้นกฎแห่งกรรม


     ทำไมไม่ให้ฆ่าคน เพราะคนอยู่ใกล้กับอริยมรรค
ชาตินี้แม้จะมีวิบากทุกข์ยาก แต่หากได้สดับพุทธธรรม
แล้วบำเพ็ญจริงสุดชีวิตหมดหนี้เวรกรรมเมื่อไร ก็บรรลุ
ได้ทันที

     ฆ่าสัตว์อื่น ๆ มีโทษบาปเบากว่าฆ่าคน เพราะสัตว์
ยังห่างไกลอริยมรรค แต่เขาก็มีโอกาสเหมือนกันจึงไม่
ควรฆ่าอย่างยิ่ง หมูผูกใจเจ็บอยู่กับเลือดเนื้อของเขา
มาก จะไม่ยอมไปจากตัวจนกว่าเนื้อชิ้นสุดท้ายของเขา
จะถูกกลืนกินหมดไปให้สังวรณ์ไว้

     คนที่เจ็บป่วยประจำ ให้ทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์
มาก ๆ นอกจากปล่อยสัตว์ที่เห็นได้ภายนอกแล้ว ยังจะ
ต้องปล่อยสัตว์ที่อยู่ภายในจิตใจของตนอีก กิเลสตัณหา
เหมือนสัตว์ร้ายที่สิงสู่อยู่ในใจใครกักเก็บไว้ ก็มีแต่วิตก
กลัดกลุ้มฯ จงปล่อยเขาออกไปให้หมด เพราะเขาจะ
พาเจ้าลงนรกไปด้วยเช่นกัน

     ค้าขายไม่ดี ยิ่งทำยิ่งขาดทุน หมุนเวียนขัดข้อง
ต้องทำบุญปล่อยสัตว์ ละเว้นการฆ่ากินเป็นสำคัญ
เพราะชาติก่อนเจ้าฆ่าเขาไว้มาก จึงต้องมีวิบากมาก
หน้าตาไม่มีราศี กิจการร้านรวงไม่เป็นที่เจริญตาเจริญ
ใจแก่ผู้พบเห็น เป็นเพราะเจ้าสร้างบุญสัมพันธ์กับใครๆ
ไว้น้อย ให้เร่งปล่อยสัตว์ เว้นการกินเนื้อสัตว์

     คนที่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จะใจดำอำมหิต ฆ่าสัตว์
ชนิดใดเป็นประจำนาน ๆ เข้า หน้าตาของเขาก็จะละ
ม้ายสัตว์นั้น ความคิดอยากฆ่าจะเกิดขึ้นมาในใจบ่อย ๆ
 
     คนบาปหนาที่ฆ่าสัตว์ไว้ ก่อนตายจะถูกกรรมเวร
นั้นรุมหนักเหมือนหนี้สินประดัง ชักหน้าไม่ถึงหลัง
เหมือนใกล้วันปิดงบสิ้นปีของธนาคาร คนชอบฆ่าสัตว์
มักจะฝันร้าย เมื่อกลับใจมากินใหม่ ๆ ก็ยังฝันกินเป็ด
กินไก่เพราะเคยกินเขาเอาไว้มาก 

     ชาติก่อน ๆ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้มาก ชาตินี้เกิดมา
จะอาภัพ จุกจิก ขี้ริ้ว ขาดมนุษยสัมพันธ์ ผู้คนรังเกียจ
ชิงชัง คนบาปหนาก่อนตายจะไม่สงบ บ้างเห็นยมทูต
มาลากคอ บ้างเห็นเจ้ากรรมนายเวร บ้างเห็นผี บ้างเห่า
หอนโอดโอยกรีดร้องเสียงเหมือนสัตว์ต่าง ๆ ซากศพจึง
น่าสะพรึงกลัว
 
     ผู้ละเว้นการฆ่า (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) คือ 
ผู้ให้อภัยทาน

อภัยทาน คือ ให้สรรพสัตว์พ้นจากความหวาด
ทุกข์หวั่นภัย ผู้ละเว้นการฆ่า จิตเมตตาจะเพิ่มพูน
ความกังวลหม่นหมองจะน้อยลง กายใจจะสุขสมบูรณ์
ปราศจากโรคภัย


     ผู้ละเว้นการฆ่า กิริยาวาจาจะอ่อนโยน ไม่แสดง
อารมณ์ร้าย ผีสางเทวดาจะปกปักรักษา จะพบแต่สิ่ง
ที่ดีมีผู้อุปถัมภ์ไม่ขาด ผู้ละเว้นการฆ่า จะนอนหลับ
สบายไม่ฝันน่ากลัว ไม่อึดอัดหรือเหมือนถูกกดทับ ละ
เว้นเนื้อสัตว์นานไปก็จะไม่ฝันกินเนื้อสัตว์อีก



     ผู้ละเว้นการฆ่า ชาติหน้าเกิดใหม่ได้เป็นคนร่ำรวย
สูงศักดิ์ ใจดี มีอิสระ ไม่พิพาทบาดหมางกับใคร ร่วมบุญ
สัมพันธ์กันไปทั่ว ผู้ถือศีลห้าได้บริสุทธิ์ อีกทั้งสร้าง
บุญกุศลเสริมส่ง จะได้ไปเกิดใน ชั้นพรหมโลก เพราะ
ไม่ได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ของวิญญาณบาป ไว้ในกมลสัน
ดานอีกต่อไป



     ศีลห้าตรงกับคุณธรรมห้า ของศาสนาปราชญ์
พระศาสดาขงจื้อสอนไว้ว่า

ไม่ฆ่าเป็นเมตตากรุณา คือ เหยิน
ไม่ลักขโมยเป็นมโนธรรม คือ อี้
ไม่ผิดในกามเป็นจริยธรรม คือ หลี่
ไม่มุสาเป็นสัตยธรรม คือ ซิ่น
ไม่ดื่มสุราเป็นปัญญา คือ จื้อ

 
     มดแมลงแม้ตัวน้อยนิดก็ฆ่าไม่ได้ เจ้ากินเนื้อสัตว์
โดยอ้างว่าเขาเกิดมาเป็นอาหารของคน เสือก็อ้างได้ว่า
คนเกิดมาเป็นอาหารของเขา ยุงดูดเลือดของเจ้านิด

เดียวเจ้ายังตบเขาให้ตาย ใจเขาใจเราเจ้าคิดดู อย่าผลัด
เปลี่ยนเสื้อผ้าแสดงกิริยาไม่สุภาพหน้าหิ้งบูชาหรือโต๊ะ
บูชา


     ภาพพิมพ์พระเจ้า ขาดเก่าไม่ใช้ ให้ม้วนเก็บไว้
อย่าเผาปนไปกับขยะ หรือกระจายอยู่บนดินถูกผู้คน
เหยียบย่ำเท่ากับลบหลู่จะเป็นบาป


     สัตว์บ้านเลี้ยงไว้จนกว่าเขาจะตาย อย่าขายหรือ
ให้ใครเอาเขาไปทอดทิ้ง อดอยาก ทำร้ายทารุณ เมื่อเขา
ตายให้ฝัง ทองพระนามพระพุทธะ พระโพธิสัตว์
พระองค์ใดก็ได้ ขอพระองค์ได้โปรดช่วยนำวิญญาณ
ของเขาไปเกิดใหม่ให้ดีด้วย


     ทุกครั้งเมื่อเกิดการผิดพลาดทุศีล หากไม่มีที่บูชา
พระในบ้าน ให้จุดธูปสามดอกปักกลางแจ้งสำนึกผิด
และแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลแก่สัตว์นั้น ๆ บาปเวรก็จะ
เบาลง



     คนถือศีลกินเจ ต้องรอบคอบระวัง ก่อนจะซื้ออา
หารสำเร็จรูปต้องถามไถ่ให้แน่ใจ ถ้าซื้อผิดกินผิดให้จุด
ธูปบอกกล่าวขอขมาต่อชีวิตเขา สำนึกผิดต่อสิ่งศักดิ์
สิทธิ์สำนึกผิดต่อมโนธรรมสำนึกของตนเอง



     ขับรถชนสุนัข สุนัขถึงแก่ความตาย (เพราะเขาวิ่ง
ตัดหน้าออกมาให้ชนเอง) ถ้าผลกรรมนี้ของสุนัขนั้น
ยังไม่หมด ชาติหน้าเขาจะต้องเกิดเป็นสุนัขอีก ถ้าผล

กรรมนี้ของสุนัขนั้นจบสิ้นแล้ว ชาติหน้าเขาจะได้เกิด
กายเป็นคน ใช้เนื้อสัตว์ เซ่นไหว้ บูชา ภาวนา อธิษฐาน
ขอลาภขอผล แก้บน ด้วยการเล่นหยาบคาย เท่ากับให้
ร้ายตัวเอง



     ไม่ทำร้ายเข่นฆ่ากายสังขาร อีกทั้งไม่ทำร้ายจิต
วิญญาณเขา จึงต้องมีวาจาอ่อนโยน อนาทรต่อความ
ทุกข์ร้อนของผู้อื่นด้วย




คัดลอก จาก บำเพ็ญขัดเกลาพุทธจิต
  
    ~~ มีดคมได้เพราะหินลับที่ทู่ทื่อ  ไฟสว่างได้เพราะไม้ฟืนที่มืดอับ
                     ไข่มุกสูงค่า เกิดจากหอยมุกต่ำต้อย 
                      หยกงามเกิดจาก้อนหินน่าเกลียด ~~

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น