..ท้าวเวสสุวรรณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก ..ภาพถ่าย วันที่ 18 สิงหาคม 2567

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

คำเทศนา ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี

คำเทศนา  ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี
                    "บุญเรา  ไม่เคยสร้าง......
     ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า" ....... !!!

      "ลูกเอ๋ย   ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์โต  เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือ  บารมีของตนลงทุนไปก่อน  เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย  มิฉะนั้น เจ้าจะเอาตัวไม่รอด  เพราะหนี้สิน  ในบุญบารมีที่เที่ยวไป ขอยืมมาจนพ้นตัว ...  เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา  ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด  ไม่มีอะไรเหลือติดตัว.....   แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า  หมั่นสร้างบารมีไว้ ....  แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง ....!!!
    
      "จงจำไว้นะ  .....  เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ... ครั้นถึงเวลา ....  ทั่วฟ้าจบดิน ก็ต้านเจ้าไม่อยู่  ...   จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย  จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า...."
       กรรมเก่า ไม่มีใครลบล้างได้  กรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง    จงจำไว้ลูกเอ๋ย  กรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ว่าดีหรือชั่ว   ย่อมมีผลต่อตัวผู้ทำทั้งสิ้น   ไม่มีพรหมเทพองค์ใดช่วยลบล้างกรรมนั้นได้   เจ้าต้องช่วยเหลือตนเอง  ด้วยการสวดมนต์ภาวนา    แผ่เมตตา  ผลแห่งบุญอันเป็นปัจจุบันนี้จะช่วยเจ้าเอง

      นี่คือ คำเทศนา และ โอวาทธรรม  ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)  พรหมรังสี  ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ในนิมิตหลังจากที่ท่านล่วงลับไปแล้ว  เมื่อ 100 กว่าปี  อันเป็นปฐมเหตุที่ต้องสร้างความดี  อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

                                             บทชินบัญชร ย่อ
  
  ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริต ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา 

    (ขอพระคาถาชินบัญชรปริตร จงรักษาข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อ)

                                             กรวดน้ำแบบย่อ

                       อิทัง  เม  ญาตินัง  โหตุ
                      สุขิตา  โหนตุ  ญาตาโยฯ

                       ขอส่วนบุญนี้สำเร็จ  แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า
                        ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข

          
                     ****  วิญญูชนคนถ่อย  อยู่ในห้วงคิดเดียว ****

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร
1. น้ำแตงโม  
    คุณค่าทางอาหาร - มีวิตามินเอ  ช่วยบำรุงสายตาและ วิตามินซี  ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
    คุณค่าทางยา  -  ช่วยขับปัสสาวะ  ปากเป็นแผล  แก้ร้อนใน และแก้กระหายน้ำ

2. น้ำฝรั่ง
   คุณค่าทางอาหาร -  มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และมีสารเบต้า-คาโรทีน    ช่วยลดสารพิษในร่างกาย ทั้งยังป้องกันไม่ให้ไขมันจับที่ผนังหลอดเลือด  ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดแข็งตัว
   คุณค่าทางยา -  ช่วยลดระดับไขมันในเลือด  ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป้วยเส้นเลือดอุดตัน

3. น้ำมะขาม
    คุณค่าทางอาหาร -  มีวิตามิน ช่วยบำรุงสายตา  และมีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก รวมทั้งแก้กระหายน้ำ   
    คุณค่าทางยา -  ช่วยขับเสมหะ  แก้ไอ  เป็นยาระบายท้อง ช่วยการขับถ่ายได้ดี ลดอาการโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

4. น้ำสับปะรด
    คุณค่าทางอาหาร -  มีแคลเซียม และฟอสฟอรัสมาก ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน รองลงมามีวิตามินซี ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน    
    คุณค่าทางยา - ช่วยย่อยอาหาร  ลดอาการแน่นท้อง  ลดการอักเสบ  บวม  ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ ช่วยขับเสมหะ


5. น้ำส้มคั้น
   คุณค่าทางอาหาร -  มีวิตามินเอมาก  ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี  ช่วยบำรุงกระดูก และฟัน     
   คุณค่าทางยา -  ป้องกันโรคโลหิตจาง  ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

6. น้ำฟ้าทะลายโจร        
   คุณค่าทางยา - ช่วยโรคภูมิแพ้ได้ดี  แก้ร้อนใน  เจ็บคอ  ตัวร้อน ปวดหัว ช่วยเจริญอาหาร

7. น้ำดอกคำฝอย       
   คุณค่าทางยา -  ลดไขมันในเส้นเลือด  ลดความดันโลหิตสูง  ช่วยขับเหงื่อ  ช่วยระบายอ่อนๆๆ  คนจีนใช้รักษาโรคหัวใจ และหลอดเลือด

8. น้ำคะน้า
   คุณค่าทางอาหาร -  ให้วิตามินเอสูงมาก  ช่วยบำรุงสายตา  คะน้าเป็นแหล่งเบต้า-แคโรทีน  ซึ่งเป็นสารที่ไปช่วยยับยั้งการก่อมะเร็งอีกด้วย   มีแคลเซียม  ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูก และวิตามินซี  ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน  ช่วยให้เนื้อเยื่อของเราทำงานได้ดี    
   คุณค่าทางยา -ป้องกันโรคโลหิตจาง  ลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้กระหายน้ำ

9. น้ำใบบัวบก
   คุณค่าทางอาหาร - มีวิตามินเอสูงมาก  ช่วยบำรุงสายตา  และสารแคลเซียมมากเช่นกัน  นอกจากนั้นยังมีวิตามินบี  1  สูงกว่าผักหลายๆๆ ชนิด     
   คุณค่าทางยา -  ช่วยแก้ช้ำใน  ทำให้หายฟกช้ำได้ดี  แก้ร้อนในกระหายน้ำ  ลดอาการปวดศีรษะข้างเดียว  บำรุงสมอง  บำรุงหัวใจ  แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้าได้ดี  แก้ความดันโลหิตสูง  ถ้าดื่มทุกวันเพียง 1 สัปดาห์  ความดันโลหิตที่สูงจะลดลง นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็ง  ลดการอักเสบ และรักษาแผลในกระเพาะ  อาหารและลำไส้  ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว ช่วยขับปัสสาวะ

10.  น้ำใบเตย
      คุณค่าทางอาหาร -  ใช้แต่งสีอาหาร  เพิ่มกลิ่นหอมให้อาหาร    
      คุณค่าทางยา - ช่วยบำรุงหัวใจ  ช่วยลดอาการกระหายน้ำ  ทำให้ชุ่มชื่น

11.  น้ำตะไคร้
      คุณค่าทางอาหาร -  มีวิตามินเอ  ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม และ ฟอสฟอรัส  ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน  ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร    
      คุณค่าทางยา -  แก้ท้องอืด  ท้องเฟ้อ  จุกเสียด  ขับปัสสาวะ  ขับเหงื่อได้ดีช่วยลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย  รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิตสูง

12. น้ำมะเขือเทศ
     คุณค่าทางอาหาร -  มีเบต้า - คาโรทีน  สูงมาก ช่วยต่อต้านมะเร็ง  และมีวิตามินซีมากเช่นกัน ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน     
     คุณค่าทางยา -ทำให้เกิดความสดชื่น  แก้กระหายน้ำ  ผิวพรรณผ่องใส  ช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้น  ช่วยฟอกเลือด และป้องกันโรคมะเร็ง

13. น้ำมะตูม          
     คุณค่าทางยา -  เป็นยาระบาย  ขับลม  ท้องเฟ้อ  ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ทำให้ขับถ่ายดี และเจริญอาหาร  ขับเสมหะ  แก้อาการร้อนในได้ดี

14. น้ำเห็ดหลินจือ
     คุณค่าทางยา -  สารอาหารที่มีอยู่ในเห็ดหลินจือ  จะเข้าไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำหน้าที่ปกติ  และสามารถต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง  ต้านการจับตัวของลิ่มเลือด  รวมทั้งลดน้ำตาลในเลือด

15. น้ำว่านหางจระเข้  ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ
      - ยางสีเหลือง  ของว่านหางจระเข้ใช้ทำยาดำ ใช้เป็นยาถ่าย
      - วุ้นและน้ำเมือก  ใช้รักษาแผลไฟไหม้  น้ำร้อนลวก  ใช้สมานแผล  เป็นยารักษาโรคริดสีดวงทวาร
      - ก้านใบ  ใช้ทำน้ำดื่ม